trading,

Stock Trading Plan for Swing Trading

Stock Trading Plan for Swing Trading
Share this

Trading Plan : แผนการเทรด

  • แผนการเทรดเป็นแนวทางและกระบวนการเทรด เทคนิคและวิธีการ ที่มีความยืดหยุ่น สามารถใช้วิจารณญาณเพื่อช่วยในการพิจารณาขั้นตอนการลงมือปฎิบัติได้เองเพิ่มเติม

  • จำเอาไว้ว่า ในช่วงเริ่มต้นอย่าตั้งเป้าไว้ที่ความร่ำรวยและเงินทอง ให้เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ ศึกษาและทบทวนให้มาก แล้วเงินทองจะหลั่งไหลตามมาในภายหลัง

  • แผนการเทรดที่ดีไม่จำเป็นต้องมีความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด หลีกเลี่ยงการพยายามทำให้แผนการเทรดมีความซับซ้อนจนเกินควร

  • ในแต่ละขั้นตอนของแผนการเทรด ควรมีช่องว่างเล็กน้อย เพื่อเปิดโอกาสให้เราเองสามารถใช้วิจารญาณและประสบการณ์ส่วนตัว เข้าไปช่วยในสถานการณ์ของตลาดที่แตกต่างกัน

แผนการเทรดหุ้นตามรอบของแนวโน้มราคา (Trading Plan for Swing Trading)

  1. คัดเลือกหุ้นซี่งแนวโน้มชัดเจนต่อเนื่อง และมีกรอบการแกว่งตัวของราคาสูงต่ำจากเส้นค่าเฉลี่ยที่สามารถทำกำไรได้

  2. ใช้กราฟราคารายสัปดาห์เพื่อวิเคราะห์หาทิศทางหลักของแนวโน้มราคาระยะยาว
    • ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ย้อนหลังแบบ EMA ระยะ 26 สัปดาห์
    • พิจารณาความชันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ย้อนหลัง ประกอบกับทิศทางของแท่ง MACD-Histogram
    • ใช้สร้างกลยุทธ์หลักและวางทิศทางการเทรดว่าจะเทรดฝั่งซื้อหรือฝั่งขาย
  3. ใช้กราฟราคารายวันเป็นกราฟราคาระยะกลางเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อ

  4. ประเมินกรอบการแกว่งตัวของราคาและระยะเวลาในแต่ละรอบความเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละตัว

  5. กำหนดจุดตัดขาดทุนเริ่มต้น และจุดทำกำไรแรกทุกครั้งก่อนส่งคำสั่งซื้อหรือขาย
หมายเหตุ:
* สามารถใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ย้อนหลังหลายเส้นหรือหลายแบบ
* ระยะ 26 สัปดาห์ (ประมาณ 127 วัน) เท่ากับจำนวนวันครึ่งปีที่มีการซื้อขาย ซึ่งเป็นจำนวนวันที่สอดคล้องกับหนังสือหลายๆ เล่มสำหรับใช้พิจารณาแนวโน้มหลัก
* ใช้ MACD(5,12,5)สำหรับการเทรด 5-9 วัน สำหรับช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง (vix > 22)
* ใช้ MACD(12,26,5) สำหรับการเทรด 1-2 สัปดาห์ช่วยกำหนดจุดเข้าซื้อและทำกำไร สำหรับตลาดมีเทรนชัดเจน (vix < 21)

แผนการทำงานรายสัปดาห์ (Weekly Action)

  1. วางทิศทางการเทรดว่าจะเทรดฝั่งซื้อหรือฝั่งขายตามแนวโน้มรายปีของดัชนีหลักของโลก
  2. เลือก sector ที่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวราคารายปีตามทิศทางแนวโน้มดัชนีหลักของโลก (Beta)
  3. วิเคราะห์กราฟรายสัปดาห์ของหุ้นทุกตัวที่อยู่ใน sector ข้อ 2 เป็นอันดับแรก
  4. ปรับสมดุลพอร์ตโพลิโอด้วย sector ที่มีแนวโน้มตรงข้ามกับแนวโน้มรายปีของดัชนีหลักของโลก (Alpha)

เทรดฝั่งซื้อ

  1. เมื่อแท่ง MACD-Histogram เอียงขึ้น

    • MACD-Histogram หรือ MACD Bullish Divergence
    • MACD หักหัวขึ้นหรือตัดเส้นสัญญาณขึ้น
    • แท่งราคารายสัปดาห์อยู่บริเวณแนวรับสำคัญ
    • เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ย้อนหลัง 26 สัปดาห์ เอียงขึ้น
    • แท่งราคาเข้าใกล้หรือทะลุกรอบล่าง (ENV26 25%)
  2. เทรดฝั่งซื้อเมื่อแท่งราคารายสัปดาห์อยู่เหนือกรอบบน (ENV26 25%) และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ย้อนหลังเอียงขึ้น (Momentum trading)

เทรดฝั่งขาย

ใช้เงื่อนไขตรงกันข้ามกับการเทรดฝั่งซื้อ

หมายเหตุ

ผลที่ได้จากแผนการทำงานรายสัปดาห์คือรายชื่อหุ้นที่จะนำไปใช้ในแผนการทำงานรายวัน

แผนการทำงานรายวัน (Daily Action)

การเทรดแบบเกร็งกำไรต้องลงอย่างรวดเร็วและฉับไวในขณะที่กำลังมีกำไรอยู่ การซื้อเกร็งกำไรทุกครั้งต้องรอให้ทุกองค์ประกอบเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างสมบูรณ์ แนวโน้มรายสัปดาห์เป็นขาขึ้น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ย้อนหลังรายวันแบบ EMA มีทิศทางเอียงขึ้น และแท่ง MACD-Histogram รายวันมีค่าเพิ่มขึ้นสำหรับการเทรดฝั่งซื้อ จะต้องขายทันทีเมื่อมีองค์ประกอบหนึ่งหายไป ซึ่งโดยปกติแล้ว แท่ง MACD-Histogram จะส่งสัญญาณก่อนเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ

ระบบการเทรดแบบ Impluse ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้จังหวะเข้าซื้อเกิดข๎้นอย่างช้าๆ เพื่อให้ทุกสัญญาณชัดเจนมากที่สุด ส่วนจังหวะขายทำกำไรจะถูกออกแบบมาให้รวดเร็วและฉับไว เป็นรูปแบบการซื้อขายอย่างมืออาชีพ เข้าซื้อให้ช้าและใจเย็น ขายออกให้ไว้และเฉียบคม

สัญญาณาการเทรดฝั่งซื้อ

  • สัญญาณเข้าซื้อ เมื่อ MACD-Histogram Bullish Divergence

  • สัญญาณเข้าซื้อ เมื่อ MACD ตัดเส้นสัญญาณ และแท่ง MACD-Histogram เหวี่ยงตัวสูงขึ้น

  • สัญญาณเข้าซื้อ เมื่อ EMA มีทิศทางเอียงขึ้น ชี้ขึ้น พร้อมกับแท่ง MACD-Histogram เหวี่ยงตัวสูงขึ้น

ขั้นตอนและวิธีการ

  1. เมื่อเกิดสัญญาณเข้าซื้อ หาจังหวะซื้อในวันถัดไป โดยใช้กราฟราคา 30นาที

  2. ก่อนการเข้าซื้อ ให้กำหนดราคาตัดขาดทุนก่อนทุกครั้ง โดยเป็นไปตามกฎวงเงินขาดทุน 2% และ 6%

  3. ใช้กราฟราคารายวันเพื่อกำหนดราคาขายตัดขาดทุน

  4. ติดตามรายชื่อหุ้นที่ได้คัดเลือกนี้อย่างต่อเนื่องทุกวัน

จุดขายทำกำไรฝั่งซื้อเน้นต้องไว

  1. MACD รายวันน้อยกว่า Signal และ RSI14 < 60 ปิดทุกสัญญาของตัวนั้น
  2. MACD หรือ RSI รายวัน Divergence ปิดทุกสัญญาของตัวนั้น
  3. ขาย 30% เมื่อ MACD-Histogram หรือ MACD Divergence

หมายเหตุ:

ให้เข้าซื้อเมื่อ MACD ตัดเส้นสัญญาณขึ้น เพราะการเลือกหุ้นโดยเงื่อนไขจากแผนการเทรดรายสัปดาห์และรายวัน จะได้หุ้นที่มีแนวโน้มชัดเจน เพราะฉะนั้นการเข้าซื้อที่ MACD X จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

การขายปิดสัญญาควรใช้เทคนิคคนละอย่างกับการเข้าซื้อ